นริศรา รัตนเพ็ชร์
“เป็นพระมานั่งไลฟ์สด มันเหมาะสมแล้วหรือ?” จากปรากฏการณ์คนดูพระไลฟ์สดกว่า 200,000 คน ต่างก็มีกระแสตอบรับในหลาย ๆ ด้าน แต่ประเด็นที่เราสนใจอยู่ตรงคำถามข้างต้นมากกว่า ... เพราะด้วยคำถามนี้ ทำให้เราอยากที่จะทำความเข้าใจกับคนตั้งคำถามมากขึ้น เขาอาจคุ้นชินกับวัฒนธรรมการฟังเทศนาธรรมที่วัด เลยเกิดข้อสงสัยที่เห็นพระไลฟ์สด ไม่มีคำใดที่เรากล่าวเลยว่า การตั้งคำถามของเขาเป็นเรื่องที่ไม่สมควร คงเป็นเพราะสิ่งที่เราปรารถนามาโดยตลอดนั่นก็คือ การที่เราทุกคนสามารถตั้งคำถามกับสิ่งต่าง ๆ ได้ โดยไม่ถูกมองว่าคำถามนั้นจะเป็นบ่อเกิดแห่งความแตกแยก ในทางตรงกันข้าม หากเราสนับสนุนให้คนหัดสงสัย และตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว เพราะการที่ทุกคนเกิดความสงสัย มักนำมาซึ่งการค้นหาคำตอบที่ดีที่สุด หากเราอยู่ในสังคมที่ง่ายต่อการตั้งคำถามก็คงจะดี... ศิลปะ... ไม่ว่าแขนงใดแขนงหนึ่ง เราทุกคนรู้จักมัน เราคงบอกไม่ได้ว่าแค่คนที่เรียนศิลปะเท่านั้นคือเด็กอาร์ท หากคนนั้นคือเด็กสาวชาวสวนที่มองเห็นความงดงามของดอกไม้ที่ผลิบาน ก็แปลว่าเธอมีสุนทรียะในตัว และเราทุกคนล้วนมีศิลปะอยู่ในจิตใจ เพียงแต่ว่า เราจะแสดงมันออกมาในส่วนใดของชีวิตเท่านั้นเอง และหากเด็กสาวชาวสวนคนนั้นโชคดี ได้โอกาสเรียนรู้ที่จะสร้างดอกไม้ของเธอให้ไม่มีวันโรยรา เธอสร้างรูปปั้นดอกไม้ขึ้นมา แต่กลับถูกพ่อของเธอต่อว่า “ดอกไม้ควรปลูกจากดิน ไม่ใช่ปลูกจากปูนปั้น” หากเปรียบสิ่งนั้นเป็นวัฒนธรรมที่พ่อเชื่อมาโดยตลอด ว่าดอกไม้ควรปลูกจากดิน แล้วการที่เด็กสาวปั้นดอกไม้ขึ้นมาจากปูนปั้นนั้นเป็นเรื่องที่สามารถโอนอ่อนและยอมรับได้หรือไม่ หลายครั้งที่เราเกิดความคิดว่าวัฒนธรรมบางอย่างนั้นน่าสนใจมาก แต่เราไม่สามารถแตะต้องมันได้เลย... สุดท้ายแล้วไม่ว่าดอกไม้ดอกนั้นจะถูกปลูกด้วยดินหรือสร้างจากปูนปั้น แก่นของมันก็ยังคือดอกไม้ดังเดิม คำปรารถนาจากเด็กสาวชาวสวน “หากสิ่งที่เขาทำกันมาอย่างเนิ่นนานนั้นสามารถประยุกต์เข้ากับสิ่งใหม่ได้ง่ายกว่านี้ก็คงจะดี...” ในยุคที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็วและไม่เคยที่จะหยุดพัก อาจสร้างความเจ็บปวดให้กับใครบางคนที่ยังพยายามเดินตามให้ทันอย่างช้า ๆ ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากเดินตาม แต่เพียงเพราะนั่นเป็นระยะที่เขาสามารถก้าวให้ทันที่สุดได้เพียงเท่านี้ ไม่ว่าจะเป็นคน Gen ไหน มนุษย์ทุกคนต่างต้องการการถูกยอมรับจากสังคมเสมอ แต่อาจมีบางครั้งที่ระยะห่างของความเข้าใจอาจกว้างจนเกินไป จนทำให้เราเข้าใจว่าเป็นเพราะช่องว่างระหว่างอายุได้ และนั่นก็อาจจะเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่เท่าที่เราเห็นในตอนนี้ ไม่ใช่คนที่มีอายุห่างจากเราทุกคนที่จะไม่เข้าใจเรา พอรู้แบบนั้น เลยรับรู้ได้ถึงสิ่งหนึ่งของเด็กที่มีศิลปะในหัวใจอย่างพวกเรานั้นใฝ่ฝันในสังคม นั่นก็คือสังคมที่คนทุกช่วงอายุนั้นพร้อมที่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นกันอย่างใจจริง ดอกไม้ที่ปลูกจากดินและดอกไม้ที่ปั้นจากปูนปั้นต่างก็สวยงามด้วยกันทั้งคู่ อยู่ที่ว่ามองด้วยสายตาของใคร การที่พระเทศนาธรรมที่วัดหรือการที่พระเทศนาธรรมผ่านการไลฟ์สด ศาสนิกชนสามารถฟังธรรมได้ทั้งคู่ เราทุกคนล้วนมีความอนุรักษ์นิยมอยู่ในตัวเองไม่ว่าด้านใดก็ด้านหนึ่ง แต่ถ้าเราสามารถเปิดใจรับฟังซึ่งกันและกันได้ หากการยอมรับซึ่งกันและกันมันง่ายกว่านี้ก็คงจะดี... คงสามารถลบคำว่าความห่างของช่วงอายุไป ทุกคนคงเข้าใจ ‘เพราะการเป็นเด็กจึงไม่ถูกยอมรับความคิดเห็น’ แน่นอนว่าทุกคนต่างก็เคยผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นกันมาก่อน... หากการพยายามทำความเข้าใจและสร้างจุดร่วมของทุก gen ในสังคมนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่ใช่แค่ใฝ่ฝัน แต่สามารถทำได้จริง นี่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เราอยากจะอนุรักษ์ให้คงอยู่เสมอไปในสังคมเช่นเดียวกัน.
ศิลปะสามารถให้ความจรรโลงใจกับเราได้เสมอ และคนที่สนใจศิลปะ สุนทรียะในตัวคุณจะนำมาซึ่ง สิ่งที่หัวใจคุณต้องการเสมอ