เอกมุนินทร์ ฉันทศิริรัตน์
ศิลปะคืออะไร และ อะไรคือศิลปะ คำถามสองข้อนี้เหมือนจะมีคำตอบสำหรับมัน แต่ในบางครั้งก็เหมือนจะไม่มี สำหรับเด็กรุ่นใหม่อย่างผมหรือที่เขาเรียกกันว่าเด็ก gen z มุมมองของผมต่อสิ่งที่เรียกว่าศิลปะอาจจะหลุดกฎเกณฑ์ หรือไม่ก็อาจจะทำให้คุณไม่พอใจประมาณหนึ่ง ตั้งแต่ที่จำความได้ ชีวิตของผมก็เริ่มต้นมาจากการชอบอ่านสิ่งที่เรียกว่ามังงะหรือการ์ตูนญี่ปุ่น ย้อนกลับไปในช่วงที่ผมอายุประมาณห้าขวบ ความสุขในตอนนั้นมีเพียงแค่การออกไปวิ่งเล่นที่สนามหญ้าหน้าบ้านและเมื่อเหนื่อยผมก็จะกลับมานอนอ่านมังงะที่พ่อยืมจากร้านเช่าหนังสือ มังงะเป็นสิ่งที่ช่วยเปิดโลกทัศน์สำหรับเด็กที่แทบจะเรียกได้ว่าดาด ๆ ไม่มีความสามารถพิเศษอะไรอย่างผม ตอนผมอายุได้หกขวบ ผมก็ได้รู้จักกับสิ่งที่เรียกว่าภาพยนตร์เป็นครั้งแรก ภาพยนตร์เรื่องนั้นคือ Ironman วันนั้นพ่อพาผมไปที่โรงภาพยนตร์ เราสองคนดูหนังกันอย่างสนุกสนานตลอดช่วงเวลาประมาณสองชั่วโมง สำหรับเด็กวัยหกขวบการที่จะจดจ่อกับอะไรสักอย่างในเวลาเป็นชั่วโมงนับได้ว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ตัวผมในตอนนั้นกลับจดจ้องไปที่จอภาพยนตร์กับภาพที่กำลังเคลื่อนไหวโดยไม่ก่อความวุ่นวายเลยแม้แต่น้อย นั่นจึงเป็นวันแรกที่ทำให้ผมติดตามภาพยนตร์จาก Marvel Studios มาจนถึงทุกวันนี้ ช่วงเวลาหลังจากนั้นจนถึงวัยมัธยมปลายผมกลับไม่เจอสิ่งไหนอีกเลยที่จะมีอิทธิพลต่อชีวิตของผมเท่ากับมังงะและภาพยนตร์ ในขณะที่โรงเรียนสอนแต่คณิตกับวิทยาศาสตร์มันก็ไม่ได้ทำให้ผมเห็นภาพของตัวเองในอนาคตเลยแม้แต่น้อย มันยิ่งทำให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นกับตัวผมเองว่าอนาคตผมจะไปทางไหน สิ่งที่ผมตัดสินใจก็คือผมเลือกเส้นทางจากสิ่งที่มีอิทธิพลกับตัวเองมากที่สุด ผมไม่มีความสามารถด้านวาดรูปแม้แต่น้อย แต่ผมชอบคิดเรื่องราว ผมชอบที่จะได้นำเสนอเรื่องราวเหล่านั้นด้วยวิธีการต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้มันทำให้ผมเลือกที่จะเข้ามาเรียนภาพยนตร์ แต่พอได้เข้ามาเรียนจริง ๆ ผมกลับเจอเข้ากับคำจำกัดความของคำว่าศิลปะ ต้องมาเรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์และต้นกำเนิดของศิลปะ ได้รู้ถึงบทบาทและหน้าที่ของศิลปะ ได้รู้ถึงความแตกต่างของศิลปะกับสิ่งที่ไม่ใช่ศิลปะ และได้รู้ว่าถึงแม้ศิลปะมันจะกว้างขวางสักเพียงใดแต่ก็ยังคงมีกรอบที่มองไม่เห็นอยู่ดี ในสื่อประเภทเดียวกัน บางอย่างก็ถูกเรียกว่าศิลปะ แต่บางอย่างก็ไม่ อย่างภาพยนตร์บางเรื่อง นับว่าเป็นหนังอาร์ต แต่ในขณะเดียวกันก็มีหนังอีกมากมายที่ถูกเรียกว่าหนังตลาด ภาพวาดบางภาพถูกนับว่ามีคุณค่าทางศิลป์ชั้นเยี่ยม แต่มังงะที่ขายออกมาได้หลายล้านฉบับกลับถูกมองว่าเป็นแค่การ์ตูนของเด็ก ทำไมการที่ทำออกมาขายคนส่วนมากถึงกลายเป็นธุรกิจ ทำไมถึงหมดคุณค่าในความหมายของศิลปะ เราไม่สามารถใช้ศิลปะทำธุรกิจได้หรือ หรือว่าศิลปะต้องปราศจากการหาผลประโยชน์ สิ่งเหล่านี้ผมก็ยังไม่สามารถตอบได้จากความรู้ที่มีเพียงน้อยนิดและประสบการณ์ชีวิตที่มีเพียงแค่ 19 ปี แต่สิ่งที่ผมสามารถตอบได้อย่างเต็มปากเลยก็คือ ชีวิตของผมขับเคลื่อนออกมาได้ด้วยแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เรียกว่า non-art เหล่านั้น ผมชื่นชอบการสร้างเรื่องราวจากการอ่านมังงะ มันทำให้ผมเกิดภาพจินตนาการมากมายขึ้นในหัว ผมอยากที่จะเล่าเรื่องราวเหล่านั้นออกมาจากการที่ผมชอบดูภาพยนตร์ ผมอยากให้คนอื่น ๆ ได้ดูเรื่องราวที่ผมอยากจะเล่า ถ้าบทบาทหน้าที่ของศิลปะคือการขับเคลื่อนสังคมด้วย soft power หรือข้อความบางอย่าง ผมก็อยากที่จะพูดว่าสิ่งเหล่านี้มันก็ทำให้คนแบบผมขับเคลื่อนชีวิตของตัวเองออกมาได้เหมือนกัน...อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่ง สังคมยุคใหม่ผมอยากให้เส้นแบ่งของ art กับ non-art ใกล้กันมากยิ่งขึ้น ไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้ถูกแบ่งแยกเพราะองค์ประกอบบางอย่างที่มันมีหรือที่มันเป็น ความเชื่อของผมก็คือสิ่งไหนที่มันมีคุณค่า ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดหรือถูกเรียกว่าอะไรก็ตาม คุณค่าของมันก็ยังคงอยู่กับตัวของมันเสมอ
สำหรับผมนั้น หลังจากที่ได้เข้ามาเรียนในศิลปากร มันทำให้ความคิดที่มีต่อศิลปะเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ศิลปะคือแนวคิดที่ไม่จำกัดด้วยกฏเกณฑ์ ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถที่จะกลายเป็นศิลปะได้ถ้าหากว่าสิ่งนั้นมัน มีจิตวิญญาณ ซึ่งมันทำให้ผมมีกรอบความคิดที่กว้างมากกว่าเดิม สำหรับใครที่กำลังมีความสนใจทางด้าน ของศิลปะหรือยังไม่แน่ใจว่าแนวทางที่ต้นเองอยู่นั้นคือสิ่งที่เรียกว่าศิลปะหรือเปล่า ผมอยากให้คุณไปให้เต็มที่ ไม่ต้องไปสนใจว่ามันจะถูกหรือว่าผิด คนเราสามารถเติบโตจากความผิดพลาดได้ อย่ากลัวที่จะล้มเหลวหรือ ถูกเกลียดชัง ต่อให้คุณจะถูกเกลียดโดยคนทั้งโลกก็ตามแต่ถ้าศรัทธาคุณยังคงแรงกล้าคุณจะมองเห็นว่า ผลงานของคุณจะไม่มีวันทรยศตัวคุณเอง