อภิชญา อยู่สะบาย
ในโลกของเราสมัยนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรต่างๆมากมาย เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจนแทบจะไม่รู้ตัวเลย พอรู้ตัวอีกที รอบๆตัวนั้นก็ต่างมีเด็กมากมายที่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น ความคิดฉีกกรอบออกมาจากแบบแนวคิดเดิม ๆ บางครั้งแล้วแนวคิดของเด็กสมัยนี้นั้น ก็ช่วยส่งผลให้สังคมเกิดการพัฒนา ให้ได้มองเห็นถึงปัญหาต่างๆในมุมของคนหลากหลายแบบได้ด้วย ไม่ว่าความคิดนั้นจะดำเนินเส้นทางไปในทางที่ดีหรือไม่ดี สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คงจะเป็นการชี้แนะและรับฟังจากคนที่มีวุฒิภาวะมากพอที่จะนำทางพวกเขาไปในเส้นทางที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นแล้วดิฉันขอเรียกสิ่งนี้ว่า “แนวคิดของเด็กอาร์ท Gen Z” แนวคิดของเด็กอาร์ทGen Z นี้ได้สะท้อนถึงปัญหาของสังคมออกมามากมาย ปัญหาที่บางครั้งแล้วตัวของผู้ใหญ่ในอดีตที่เคยผ่านเหตุการณ์เช่นเดียวกับเด็กสมัยนี้มาแล้วนั้น ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทำได้เพียงแค่ปล่อยผ่านไป แต่สมัยนี้จะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว ไม่ว่าจะปัญหาเล็ก ปัญหาใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างเด็กๆล้วนเป็นหูเป็นตาให้กับผู้ใหญ่ กระตือรือร้นในการแก้ปัญหาที่ค้างคาในอดีต ให้ได้รับการแก้ไขอย่าง รวมถึงการได้รับการยอมรับจากการที่พวกเขานั้นได้ทำในสิ่งที่ชอบได้เป็นตัวของตัวเอง ได้เป็นอิสระอย่างแท้จริง โดยไม่ถูกสายตารอบข้างมองว่าแปลกประหลาด แล้วคุณเคยได้ยินคำว่า "เด็กคืออนาคตของชาติ" ไหมคะ ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ต่างได้ยินคำนี้ทั้งนั้น ตั้งแต่เด็กจนโต แต่คำ ๆนี้สามารถทำให้เป็นจริงได้ไหม เป็นจริงในสิ่งที่กล่าวไปคือ การที่เด็กมีส่วนร่วมในสิ่งต่างๆ เปิดโลกให้กว้างขึ้น แสดงให้เห็นว่าโลกใบนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่พวกเขาเหล่านี้เข้าถึงแล้ว และพยายามให้ทุกคนในสังคมรับรู้ถึงสิ่งนั้นด้วย เพราะพวกเขาคือคนที่จะพัฒนาอนาคตต่อไปและพวกเขาจำเป็นจะต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อจะได้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อไปให้สังคมก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ดังนั้นแล้วสังคมในฝันของเด็กอาร์ทGen Z ที่พวกเราต้องการนั้นเรียกโดยรวมได้นั่นก็คือ “อิสระ” ไม่วาจะเป็นอิสระทางด้านความคิด อิสระทางด้านการแสดงออก อิสระในการแสดงความเป็นตัวเองออกมา รวมถึงการที่จะได้รับการยอมรับจากสังคมและผู้ใหญ่ ยอมรับความเปลี่ยนแปลงไปทีละนิด เพื่อที่จะทำให้ปัญหาที่เคยมีอยู่ในสังคมบางอย่างได้รับการแก้ไขและดีขึ้น แต่ถ้าหากสิ่งใดที่เด็กอาร์ทGen Z นั้นคิดและพึงกระทำออกมาไม่เหมาะไม่สมควร เกินกว่าขอบเขต เราก็ต้องการผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะ คุยด้วยเหตุผลและได้คอยอธิบายให้เด็กนั้นได้เข้าใจ มิใช่การต่อต้าน ตำหนิ กีดกัน ทำให้เด็กไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่า เพราะเหตุใดเขาถึงทำแบบนั้นกับเรา เราคิดผิดตรงไหน เด็กๆนั้นต้องการการอบรมสั่งสอนและเมื่อเขาคิดได้เขาก็จะเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ แล้วก็ความคิดของเขานั้นย่อมเต็มไปด้วยจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ตีกรอบใหม่ๆขึ้นมาไม่รู้กี่ล้านแบบ กรอบในแบบของพวกเขาเอง กรอบความฝันของพวกเขา กรอบที่บรรจุไปด้วยสิ่งที่เขารักที่จะทำและเต็มใจทำมัน เด็กๆเหล่านี้จะนำพาโลกและสังคมให้พัฒนาขึ้นไปต่อไปในอนาคตอันแสนใกล้นี้ แล้วการที่จะมีสิทธิในการแสดงความเห็น แสดงความเป็นเดือดเป็นร้อนด้วย และเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหานั้นเท่าที่จะสามารถทำได้ เพราะ เรานั้นต่างอาศัยอยู่ในสังคมเดียวกัน มิใช่มีแต่เพียงผู้ใหญ่เท่านั้นที่จะเป็นกำลังในการพัฒนาสังคม เด็กๆก็สามารถช่วยผู้ใหญ่ได้ เปิดใจและฟังปัญหาจากเด็กๆ เพราะพวกเขาคือ คนที่อาศัยอยู่ในสังคมที่มีปัญหานั้นจริงๆ และคนที่ไม่ได้อยู่ในปัญหาจึงไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามันยังมีนะ สังคมที่ยังมีปัญหาอยู่ ที่ต้องการได้รับการแก้ไข และเด็กด้วยกันเองก็อยากร่วมช่วยเหลือด้วยเช่นกัน ยังไงทุกคนก็อาศัยและพึ่งพากันในสังคมนี้ ตั้งแต่แรกเริ่มชีวิตจนบั้นท้ายชีวิต และทั้งหมดนี้คือ สิ่งที่สื่อถึงและอยากจะให้ตระหนักถึงคำว่า "สังคมในฝันของเด็กอาร์ท Gen Z"
ศิลปะให้ความอิสระกับเรา ปลดปล่อยความสามารถและความออกมาให้เป็นสิ่งที่จับต้องได้ ขอให้กำลังคนที่สนใจ ในศิลปะนะคะว่า แค่รักและมุ่งมั่นตั้งใจอย่างเต็มที่ก็พอค่ะ