ณัฏฐณิชา สุทธิพงศ์ , ปฏิมา อารีรัมย์ , ณัฐรินทร์ สิทธิจันทร์ ,
ความฝันของแต่ละคนคืออะไร? ฝันว่าอยากรวย ฝันว่าอยากมีอนาคตที่ดี ฝันว่าอยากเป็นที่ยอมรับ? ตัวอย่างความฝันตรงนี้ทั้งหมด ล้วนเป็นความฝันที่อนาคตของชาติต่างฝันกัน แต่อนาคตของชาติก็ถูกหยุดไว้เพราะคนรุ่นก่อน หยุดไว้อย่างไร? ยังไม่ทำอะไรเลย “แค่คาดหวัง” ความคาดหวังของพวกคุณ มันอาจทำให้ความฝันของพวกเขานั้นไกลออกไปเรื่อยๆ เพราะมันอาจไปลดความเป็นอิสระของพวกเขา แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าพูดถึงคุณค่าศิลปะในเมืองไทยยิ่งริบหรี่เมื่อคุณมองเข้ามาหาเด็กรุ่นใหม่ที่คุณคาดหวัง ต่างคนต่างความเชื่อ ความเชื่อที่ทำให้ศิลปะนั้นด้อยค่าลง และความเชื่อนั้นยังคงอยู่ หากพูดถึงศิลปะในเมืองไทย คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่สังคมมักจะให้ค่ากัน หรือบางทีอาจไม่ให้เลยด้วยซ้ำ และมองว่ามันเป็นเพียงแค่ศิลปะที่ใคร ๆ ก็ทำได้ แต่จริง ๆ แล้ว มันไม่ใช่แบบนั้น สิ่งเหล่านี้ทำให้เด็ก Gen Z หลาย ๆ คนต่างต้องตัดความคิดเหล่านี้ทิ้ง ทั้ง ๆ ที่มีความสามารถ เมื่อการมีอยู่ของศิลปะในสังคมไทยถูกลดคุณค่าลง จนต้องกลายเป็นสังคมในฝันของใครหลาย ๆ คน ทั้งที่จริง ๆ แล้วศิลปะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าในตนเอง และพร้อมจะมอบคุณค่าให้กับมนุษย์ เพียงแต่มนุษย์บางกลุ่มกลับไม่ได้ให้คุณค่าและสนับสนุนการมีอยู่ของศิลปะเท่าที่ควร จึงส่งผลให้สังคมที่เราอยู่ในตอนนี้ ไม่ได้สนับสนุนการมีอยู่ของศิลปะสักเท่าไหร่ สถานการณ์ในปัจจุบันสังคมเราได้รับบททดสอบที่ร้ายแรงกับโรคระบาดของโควิด-19 ทุกคนล้วนได้รับผลกระทบ รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z ที่กำลังอยู่ในช่วงที่กำลังสร้างความฝัน สร้างอนาคต ช่วงอายุที่มากที่สุดของกลุ่มคน Gen นี้ก็เพียงแค่ได้เริ่มต้นการทำงานเพียงไม่กี่ปี เมื่อเกิดสถานการณ์ที่เหนือการคาดเดาเช่นนี้ เราคงทำได้เพียงยอมรับและพยายามสู้กับมันต่อไปจนบางครั้งเรารู้สึกว่า แบบทดสอบนี้มันยากเกินกว่าจะผ่านไปได้ เกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘ดาวน์’ ขึ้นในความรู้สึก Gen Z อย่างเราคงต้องหาบางสิ่งบางอย่างช่วยจรรโลงจิตใจ เพื่อช่วยยึดให้ตัวเองไม่จมดิ่งลงไปในความรู้สึกแย่ ๆ มากไปกว่านี้ หลายคนก็คงนึกถึง การได้เสพงานศิลปะ แต่เราจะหาสิ่งเหล่านี้เสพได้จากที่ไหน ในเมื่อสังคมไทยยังลดทอนคุณค่าของงานศิลปะอยู่เช่นนี้ อนาคตของพวกเราถูกกำหนดทิศทางโดยผู้ใหญ่รุ่นเก่าที่คิดว่าตัวเองคือกลุ่มคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะพัฒนาสังคมให้ก้าวไกล ปราศจากการปล่อยโอกาสให้กลุ่มคน Gen ใหม่ ๆ ได้แสดงศักยภาพของตัวเอง มั่นใจในความคิดของตนเอง ไร้ซึ่งการรับฟังเสียงของกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ ๆ อย่างพวกเรา แล้วจะเป็นอย่างไร? หากประเทศของเราเห็นคุณค่าและให้พื้นที่กับงานศิลปะมากกว่าที่เป็นอยู่ ลองหลับตา ปล่อยความรู้สึกไหลไปกับความคิด จินตนาการว่า พื้นที่แถวระแวกบ้านเราได้มีพื้นที่ให้เราได้ไปเสพงานศิลปะแบบที่ชอบ ภาพที่ถูกประณีตบรรจงจากศิลปินคนโปรด เจอผู้คนแปลกหน้าแต่มาหยุดดูงานศิลปะรูปเดียวกันจนได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดต่าง ๆ มากมาย รู้สึกดีใช่ไหม? พอเราได้มีพื้นที่ได้เสพได้ทำในสิ่งที่เราชอบ เช่น งานศิลปะ เหมือนทำให้เราได้มีชีวิตใหม่ขึ้นอีกครั้ง จากความรู้สึกจมดิ่ง จากเรื่องเลวร้าย อย่างน้อยมันอาจช่วยพยุงตัวเราเองให้มีไฟในการต่อสู้กับเรื่องที่ต้องเผชิญ รวมถึงเรื่องการอยู่ร่วมกันในสังคม ระหว่างคนส่วนใหญ่และคนส่วนน้อย ถ้าคนส่วนใหญ่ไม่ได้ขับเคลื่อนสังคมด้วยศิลปะร่วมกับคนส่วนน้อยที่ต้องการจะขับเคลื่อนสังคมด้วยศิลปะ สุดท้ายแล้วสังคมก็จะถูกลดคุณค่าของศิลปะลงอยู่ดี เพราะขาดความร่วมมือจากคนในสังคม ศิลปะมันทั้งบำบัดจิตใจได้ สร้างมูลค่าได้ เหตุใดคนในประเทศนี้ต่างไม่เห็นค่า ต่างตั้งความหวังกับอนาคตของชาติ แต่อนาคตของชาติจำนวนไม่น้อย... ต่างต้องการทำตามความฝันเหล่านี้ที่ทุกคนอาจมองข้ามไป จนกลายเป็นว่า สังคมที่แวดล้อมและขับเคลื่อนไปด้วยศิลปะ สิ่งที่เป็นที่ต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่หรืออนาคตของชาติที่ชื่นชอบศิลปะ กลับกลายเป็นแค่สังคมในความฝันของคนกลุ่มนี้
ศิลปะสำหรับเราคือให้ความอิสระ การที่จะวาดเส้นลงอย่างตามใจ หรือการละเมียดละไม ในการลงสี มันเป็นศิลปะที่สามารถบรรเทาและรักษาจิตใจได้ เวลาเราทำศิลปะในหัวเราจะ ตามจินตนาการ มันไม่คิดอะไร ไม่มีใครควบคุม มันสามารถบ่งบอกความเป็นตัวเราผ่านศิลปะได้ ประโยคให้กำลังใจเราว่าศิลปะมันเป็นส่วนนึงที่มีมูลค่ามาก ทั้งสามารถสร้างเงินได้ และบำบัด จิตใจได้ ติดอยู่ตรงที่ประเทศไทยไม่ได้ให้ค่าขนาดนั้น แต่เราก็เชื่อว่าในอนาคตคนจะมองเห็น ค่ามันเพิ่มขึ้น จริงๆตอนนี้คนก็เริ่มเห็นความสำคัญมากขึ้นแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าชอบก็ทำต่อไป มันต้องมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นแน่ๆ เราเชื่อแบบนั้น (ณัฏฐณิชา สุทธิพงศ์)
ศิลปะให้ความสงบกับจิตใจและความอยู่กับตัวเอง สู้ ๆ ค่ะ ศิลปะทุกอย่างมีคุณค่าเสมอ (ปฏิมา อารีรัมย์)
ศิลปะจรรโลงจิตใจในวันที่เจอเรื่องบั่นทอนจิตใจ ศิลปะสร้างความงดงามให้ชีวิตที่อาจไม่งดงาม ศิลปะคือตัวตนของเราอย่างแท้จริงที่ไม่ได้ประดิษฐ์เสริมเติมแต่ง งานของเราจึงไม่จำเป็นต้องสวย เหมือนใคร หรือสวยเท่าไหน เพราะตัวตนของคุณเองมันสวยที่สุดแล้ว (ณัฐรินทร์ สิทธิจันทร์)