Opinions

เมื่อโอกาสกลายเป็นวิกฤติ! กยศ. สภาพคล่องถดถอย ปัญหาลูกหนี้ และทางรอดในอนาคต?

FacebookTwitterEmailCopy Link
เมื่อโอกาสกลายเป็นวิกฤติ! กยศ. สภาพคล่องถดถอย ปัญหาลูกหนี้ และทางรอดในอนาคต?

เมื่อการผิดนัดชำระหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จุดประกายการถกเถียงของคนในสังคมเกี่ยวกับปัญหาหนี้ทางการศึกษาที่ลุกลาม

ขณะเดียวกันกองทุนฯ ที่มีบทบาทสำคัญในการให้กู้ยืมเงินแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ก็เผชิญกับวิกฤติการขาดสภาพคล่องทางการเงิน

พูดง่าย ๆ คือ ตังกำลังจะหมด!

เราจะแก้ปัญหานี้อย่างไรโดยไม่ซ้ำเติมลูกหนี้ และยังสามารถรักษาเสถียรภาพของกองทุนฯ เพื่อเด็กรุ่นใหม่ให้คงอยู่ได้?

เรื่องนี้เริ่มจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความรีวิวลงในกลุ่ม “ทนายอาสาให้คำปรึกษากฎหมายฟรี” ถึง “การไม่ชำระหนี้ กยศ. อย่างไรให้พ้นจากกรอบของกฎหมาย”

หลังจากโพสต์เผยแพร่ออกไปก็ทำให้ผู้คนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลามว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่สมควรกระทำเอาเสียเลย

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. เป็นกองทุนฯ ที่จัดตั้งตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2538 มีวัตถุประสงค์ให้กู้ยืมเงินแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

ทว่าผ่านมา 28 ปี กองทุนเพื่อการศึกษานี้กำลังจะล้มลง เนื่องด้วยการขาดสภาพคล่องทางการเงิน

ข้อมูลจากเอกสารประกอบการชี้แจงงบประมาณของ กยศ. ที่เสนอต่อกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ระบุว่า กฎการปรับโครงสร้างหนี้ของ กยศ. ส่งผลให้กองทุนฯ ได้รับเงินคืนน้อยกว่าที่ทางกองทุนได้จ่ายออกไป

เอกสารยังระบุว่า ยังมีการผิดนัดชำระหนี้อันด้วยสาเหตุของการขาดความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ ผู้กู้ขาดวินัยทางการเงิน ขาดจิตสำนึก รวมไปถึงการระงับหนี้ตามมาตรา 49 เนื่องจากผู้กู้ถูกนับว่าเป็นบุคคลล้มละลาย ทำให้ทางกองทุนฯ ไม่ได้รับการชำระหนี้คืน และทำให้ทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอต่อการให้เงินกู้ยืมในภายภาคหน้า

จากสถานการณ์ปัจจุบัน ประกอบกับการพิจารณาโพสต์ “รีวิวหนีหนี้ กยศ.” ที่เกิดขึ้น จะพบว่า โพสต์ดังกล่าวได้เสนอวิธีพื้นฐานของการหนีหนี้ โดยผู้กู้นั้นจะโยกย้ายทรัพย์สินเพื่อทำให้ตนกลายเป็นบุคคลล้มละลายเพื่อหลีกหนีการชำระหนี้ ซึ่งการกระทำแบบนี้นับเป็นการใช้กระบวนการล้มละลายโดยไม่สุจริต อีกทั้งอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350 ฐานโกงเจ้าหนี้ ซึ่งทางกองทุนฯ สามารถยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอเพิกถอนการโอนทรัพย์สินนั้นได้

ที่ผ่านมา ข่าวกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม นี้เองได้เปิดเผยว่า กองทุนฯ มีการดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง และอาญาในความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ไปแล้วกว่า 40 ราย ดังนั้น นี่ไม่ใช่กรณีแรกที่มีการหนีหนี้ กยศ. ด้วยวิธีข้างต้น

อย่างไรก็ดี จากช่องโหว่ที่เกิดขึ้นก็มีการตั้งคำถามว่า ‘เราสามารถปรับแก้ข้อกฎหมายให้เข้มงวดกว่านี้ได้หรือไม่’?

คำตอบคือหากมีการปรับแก้กฎหมายให้เข้มงวดกว่านี้ อาจเป็นการบีบรัดลูกหนี้จนเกิดผลกระทบที่รุนแรงถึงชีวิตตามมา

จากการรวบรวมข้อมูลพบว่า นอกจากการขาดวินัยทางการเงิน สภาพการณ์ที่เป็นเงื่อนไขสำคัญคือ ผู้กู้บางส่วนนั้นขาดความสามารถในการชำระหนี้เนื่องด้วยสาเหตุอันมาจากเศรษฐกิจ แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสเติบโตได้ 3% ในปีหน้า จากการแถลงในงาน ‘Meet the Press: ผู้ว่าการพบสื่อมวลชน’ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ก็ตาม

ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า

แม้ภาพรวมค่าเฉลี่ยของเศรษฐกิจจะโต แต่หลายคนไม่ได้รู้สึกว่าเศรษฐกิจดี เนื่องจากแม้รายได้อาจเพิ่มขึ้น แต่ของก็แพงขึ้น ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในไทย แต่เห็นทั่วโลก แต่ประเทศไทยยังถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ซึ่งสร้างภาระกับผู้คน

เมื่อสืบค้นข้อมูลต่อไปจากผลสำรวจ SCB EIC Consumer survey 2024 ของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) รายงานฉบับนี้ระบุว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยมีแนวโน้มจะคลี่คลายได้ช้าในระยะข้างหน้า

ด้วยสาเหตุนี้เองจึงทำให้คนไทยมีหนี้ท่วม ทำให้ขาดความสามารถในการชำระหนี้ไม่ว่าจะเป็นหนี้จากธนาคาร หรือว่าหนี้จาก “กองทุนให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา” ก็ตาม

การขาดสภาพคล่องทางการเงินถือเป็นอุปสรรคชิ้นโตของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา แม้ว่าจากรายงานของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 เล่มที่ 4 จะมีรายงานการจัดสรรงบเพิ่มเติมให้ทางกองทุนฯ ที่ 3,773 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการดำรงอยู่ของกองทุนฯ

ข้อมูลจากแผนงานการติดตามหนี้ของ กยศ. วันที่ 26 มีนาคม ต้นปีนี้ ระบุว่า ยังมียอดเงินต้นการผิดนัดชำระหนี้เป็นจำนวนเงิน 97,110 ล้านบาท แม้ว่ากองทุนฯ จะมีมาตรการการแก้ไขเบื้องต้น ทว่าก็ยังไม่สามารถรับรองได้ว่าลูกหนี้นั้นจะกลับมาชำระหนี้จริง

งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งเรื่อง “กับดักหนี้ กับการพัฒนาเศรษฐกิจการเงินครัวเรือนฐานราก” ของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ได้ชี้แนวทางการแก้ปัญหาหนี้ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของครัวเรือนเกษตรกรไทยไว้ว่า หากจะช่วยให้เกษตรกรพ้นจากปัญหาหนี้เหล่านี้ จำเป็นจะต้องแก้ให้ครบวงจร ตั้งแต่ปัญหาหนี้ ปัญหาเศรษฐกิจการเงินครัวเรือน และปัญหานโยบายภาครัฐ

ดังนั้น แนวทางการแก้ปัญหาที่อาจนำมาปรับใช้ได้ในกรณีของการขาดสภาพคล่องกองทุนฯ คือ การปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสมกับศักยภาพ และเป็นธรรม

หมายถึงการปรับโครงสร้างหนี้ให้เหมาะสมกับสถานภาพทางการเงินของลูกหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ในระยะยาว

เรื่องโดย จินนิยตา สวัสดิ์ศรี

FacebookTwitterEmailCopy Link

Popular

View all
ฝนตกน้ำท่วม “นนทบุรี” อ่วม เหตุผังเมืองไร้ทิศทาง
News

ฝนตกน้ำท่วม “นนทบุรี” อ่วม เหตุผังเมืองไร้ทิศทาง

‘ยกยอ’ ทอแสงตะวัน วิถีชาวคลองปากประ พัทลุง
Lifestyle

‘ยกยอ’ ทอแสงตะวัน วิถีชาวคลองปากประ พัทลุง

เรียน Journalism ไปทำอะไร?
News

เรียน Journalism ไปทำอะไร?

เด็กศิลปากรโดนถามอะไรกันบ้าง ?
Video

เด็กศิลปากรโดนถามอะไรกันบ้าง ?

เสียงของซาเล้งที่ดังไม่ถึงรัฐบาล
Quality of Life

เสียงของซาเล้งที่ดังไม่ถึงรัฐบาล

เด็กไทยภายใต้วาทกรรม ‘เด็กดี’
Opinions

เด็กไทยภายใต้วาทกรรม ‘เด็กดี’