Opinions

Queerbaiting เมื่อรักถูกฉกฉวย ผ่านธุรกิจสื่อ ‘วาย’ ภายใต้สังคมทุนนิยมไทย

FacebookTwitterEmailCopy Link
Queerbaiting เมื่อรักถูกฉกฉวย ผ่านธุรกิจสื่อ ‘วาย’ ภายใต้สังคมทุนนิยมไทย

ในยุคที่โลกเปิดรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้น ‘วาย’ ได้กลายเป็นคำที่คนคุ้นเคยผ่านสื่อต่าง ๆ ควบคู่ไปกับ LGBTQ+ ที่ผู้คนทยอยเปิดรับความหลากหลาย ทว่าเมื่อมองลึกลงไปมากกว่าแค่ความจิ้น ความฟิน ในขณะที่สื่อวายนี้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในสังคม จึงก่อให้เกิดการ ‘ฉกฉวย’ เพื่อผลประโยชน์ด้านกำไรโดยขาดการคำนึงถึงความเข้าใจกลุ่มเพศหลากหลายอย่างแท้จริง

บทความนี้จึงจะพาไปสำรวจที่มาและความสัมพันธ์ของสื่อวายกับทุนนิยม สาววายในฐานะผู้บริโภคที่ควรมีความรับผิดชอบ และการฉกฉวยอัตลักษณ์ของ LGBTQ+ ที่เรียกว่า Queerbaiting


รู้จักกับคำว่า “วาย” จากบทวิจัย “บันเทิงคดียาโออิไทย” โดย บุษบา ทองอุปการ ระบุว่า Y มาจากคำว่า ‘Yaoi’ หมายถึงเรื่องราวของชายรักชาย รวมถึงสามารถหมายถึง ‘Yuri’ ซึ่งเป็นของหญิงรักหญิง ถูกสร้างขึ้นจากวัฒนธรรมของกลุ่มชาวญี่ปุ่นผู้หญิงที่ชอบนำตัวละครจากสื่อมาสร้างเรื่องราวสมมติให้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน กลุ่มผู้หญิงที่ชื่นชอบ Y จึงถูกเรียกว่า “สาววาย”


อย่างไรก็ตาม ความนิยมของวายทำให้บางองค์กรใช้เพื่อประโยชน์โดยขาดการสนับสนุนอย่างจริงใจ เช่น กรณีแอคเคาท์ X @bangkokpride_ ใช้ “คู่จิ้น” เพื่อเรียกกระแสในช่วงสมรสเท่าเทียมที่ผ่านมา จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าขาดความจริงใจต่อ LGBTQ+

หรือในปี 2565 สยามเซ็นเตอร์ จัดกิจกรรมร่วมกับ UNDP ตกแต่งธีมและอาหารที่มุ่งเน้นสีรุ้ง โดยไม่ได้มีการพูดถึงสิทธิความเท่าเทียมของ LGBTQ+ อย่างลึกซึ้งแต่อย่างใด อาจเรียกได้ว่าเป็นการ Rainbow Washing หรือ การใช้สีรุ้งที่เป็นสัญลักษณ์ของ Pride Month เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด


“Queerbaiting” คือกลยุทธ์ในสื่อบันเทิงที่สร้างนัยว่าตัวละครมีความสัมพันธ์หรืออัตลักษณ์แบบ LGBTQ+ แต่ไม่แสดงออกอย่างชัดเจน เพียงเพื่อดึงดูดผู้ชมทั้งกลุ่มที่สนับสนุนและไม่สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ

“Rainbow Washing” คือการใช้สัญลักษณ์ของชุมชน LGBTQ+ เช่น ธงสีรุ้ง เพื่อการตลาดโดยไม่ได้สนับสนุนชุมชนอย่างแท้จริง

ทั้งสองมีจุดร่วมกัน คือการฉวยใช้ประเด็นความหลากหลายทางเพศเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ โดยไม่ได้ผลักดันความเท่าเทียมอย่างจริงจัง ซึ่งในประเทศไทยพบเห็นได้ในอุตสาหกรรมบันเทิงที่ใช้ “คู่จิ้น” เพื่อดึงดูดสาววาย แต่ไม่ได้สนับสนุนประเด็นสิทธิ LGBTQ+ อย่างเป็นรูปธรรม

Queerbaiting ที่มีให้เห็นอยู่หลายกรณีในวงการบันเทิงไทย เช่น ซีรีส์ที่โปรโมทด้วยฉากสัมผัสร่างกาย หรือคำพูดกำกวมระหว่างตัวละคร แต่เนื้อเรื่องจริงกลับพบว่าความสัมพันธ์ที่เห็นนั้นเป็นเพียง “เพื่อนสนิท” ทั้งที่เมื่อมองความเป็นจริงแล้ว การกระทำเหล่านั้นเกินกว่าคำว่าเพื่อนสนิทไปมากอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงการจัดกิจกรรมแฟนมีต ที่จับคู่นักแสดงชายให้แสดงความสนิทสนม หยอกเล่นประหนึ่งคู่รักเกย์ คล้ายการ “สร้างโมเม้นต์” เพื่อเอาใจผู้ชมที่เป็นสาววายแต่ไม่ได้แสดงจุดยืนสนับสนุน LGBTQ+ แต่อย่างใด


เพราะมีการเกาะกระแสจากความโด่งดังโดยขาดความเข้าใจ จึงเกิดการตั้งคำถามว่าซีรีส์วายสนับสนุนสิทธิของกลุ่มเพศหลากหลายจริงหรือไม่ ?

ธีพิสิฐ มหานีรานนท์ นักเขียนอิสระและอดีตบรรณาธิการ BIOSCOPE เขียนบทความลงไทยรัฐ ชี้ให้เห็นว่า แม้สื่อวายไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นเครื่องมือเรียกร้องสิทธิ แต่มีซีรีส์ไทยบางเรื่องที่พูดถึงความเท่าเทียม เช่น “นิทานพันดาว” และ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” ในขณะที่บางเรื่องเน้นความบันเทิงมากกว่าประเด็นสิทธิ แม้จะนำเสนออย่างเป็นมิตรต่อสังคม


ขณะที่สื่อวายและ “คู่จิ้น” ได้รับความนิยม ชาว LGBTQ+ บางส่วนรู้สึกว่าอัตลักษณ์ของพวกเขาถูกลดทอนเป็นเพียงเครื่องมือทำกำไรเท่านั้น

สื่อวายและคู่จิ้นได้รับแสง มีผู้คนสนใจ กลับกัน เหล่าผู้คนที่ถูกหยิบยืมอัตลักษณ์ไป ยังต้องเผชิญกับความอยุติธรรมจากสังคมเดียวกับที่ให้แสงสื่อวายและคู่จิ้นเหล่านั้น ยังคงถูกเลือกปฏิบัติ ถูกลบเลือนตัวตน ประเด็นเหล่านี้แสงส่องไม่ถึงเท่าครึ่งหนึ่งของการ “จิ้น” ในโลกบันเทิงจากสื่อเกาะกระแสวายและไม่ได้อยู่เคียงข้างชุมชน LGBTQ+  เสมือนกำลังซ้ำเติมการถูกเอาเปรียบของพวกเขา


สาววาย เมื่อเลือกที่จะเสพสื่อวายอันอ้างอิงมาจากกลุ่มเพศหลากหลายในชีวิตจริงแล้ว สามารถมีบทบาทในฐานะผู้บริโภคที่มีความรับผิดชอบได้หลายรูปแบบ เช่น

  • เลือกบริโภคสื่ออย่างมีสติ แยกแยะโลกสมมติกับความเป็นจริง 
  • เคารพความเป็นส่วนตัว และสนับสนุนสื่อที่มีคุณภาพ
  • สร้างการยอมรับความหลากหลายทางเพศ ผ่านการสนับสนุนสื่อวายที่มีเนื้อหาสร้างสรรค์ แสดงจุดยืนสนับสนุน และเสพสื่อที่แสดงจุดยืนหรือไม่ต่อต้านเช่นกัน
  • สนับสนุนศิลปินและผู้สร้างสรรค์ ผ่านการซื้อสินค้าและมีส่วนร่วมในอีเวนต์

เมื่อผู้บริโภคตระหนักถึงปัญหาของ Queerbaiting มากขึ้น อุตสาหกรรมวายอาจต้องปรับตัวด้วยการ ‘เปิดใจ’ ‘ยอมรับ’ และ ‘เรียนรู้’ เพื่อสามารถมีคติที่ไม่เป็นพิษต่อชาวเพศหลากหลาย และสามารถสร้างสื่อวายที่ไม่เป็นการทำร้าย  LGBTQ+ ในชีวิตจริงได้

และแนวโน้มที่น่าจับตาคือ การมีส่วนร่วมของชาว LGBTQ+ ในการผลิตสื่อ หากตัวละครเป็นเกย์ ก็ให้เกย์จริง ๆ มาแสดง เป็นการแสดงจุดยืนสนับสนุนที่ชัดเจน และขณะที่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับโลกที่เข้ามาลงทุนในไทยก็อาจจะมีการกำหนดมาตรฐานการนำเสนอเรื่องราวของชาวเพศหลากหลายให้มีมิติมากยิ่งขึ้น ในอนาคตอาจทำให้เส้นแบ่งระหว่าง “ซีรีส์วาย” กับ “ซีรีส์ LGBTQ+” เลือนรางไปเลยก็ได้

สุดท้ายแล้ว สาววายในฐานะผู้บริโภคที่มีความรับผิดชอบ ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการถูกมองในแง่ลบ แต่ยังช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนสังคมไปในทิศทางที่ดีขึ้น ร่วมกับการต่อต้านการ Queerbaiting ที่ฉกฉวยเพียงอย่างเดียวแต่ไม่ให้การสนับสนุนใด ๆ

แม้ในปัจจุบันสามารถเห็นได้ว่าสาววายนั้นมีทั้งกลุ่มที่ยังไม่ตระหนักและกลุ่มที่ตระหนัก ผ่านการถกเถียงในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ในอนาคต หากเสียงของชุมชนและผู้สนับสนุนยังดังต่อไป เชื่อว่าวงการสื่อบันเทิงและสังคมจะเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน

ถึงจะต้องใช้เวลาก็ตาม

เรื่อง วชิราภรณ์ เย็นสินธุ์

FacebookTwitterEmailCopy Link

Popular

View all
ฝนตกน้ำท่วม “นนทบุรี” อ่วม เหตุผังเมืองไร้ทิศทาง
News

ฝนตกน้ำท่วม “นนทบุรี” อ่วม เหตุผังเมืองไร้ทิศทาง

‘ยกยอ’ ทอแสงตะวัน วิถีชาวคลองปากประ พัทลุง
Lifestyle

‘ยกยอ’ ทอแสงตะวัน วิถีชาวคลองปากประ พัทลุง

เรียน Journalism ไปทำอะไร?
News

เรียน Journalism ไปทำอะไร?

เด็กศิลปากรโดนถามอะไรกันบ้าง ?
Video

เด็กศิลปากรโดนถามอะไรกันบ้าง ?

เสียงของซาเล้งที่ดังไม่ถึงรัฐบาล
Quality of Life

เสียงของซาเล้งที่ดังไม่ถึงรัฐบาล

เด็กไทยภายใต้วาทกรรม ‘เด็กดี’
Opinions

เด็กไทยภายใต้วาทกรรม ‘เด็กดี’