
ในยุคที่โลกเปิดรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้น ‘วาย’ ได้กลายเป็นคำที่คนคุ้นเคยผ่านสื่อต่าง ๆ ควบคู่ไปกับ LGBTQ+ ที่ผู้คนทยอยเปิดรับความหลากหลาย ทว่าเมื่อมองลึกลงไปมากกว่าแค่ความจิ้น ความฟิน ในขณะที่สื่อวายนี้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในสังคม จึงก่อให้เกิดการ ‘ฉกฉวย’ เพื่อผลประโยชน์ด้านกำไรโดยขาดการคำนึงถึงความเข้าใจกลุ่มเพศหลากหลายอย่างแท้จริง
บทความนี้จึงจะพาไปสำรวจที่มาและความสัมพันธ์ของสื่อวายกับทุนนิยม สาววายในฐานะผู้บริโภคที่ควรมีความรับผิดชอบ และการฉกฉวยอัตลักษณ์ของ LGBTQ+ ที่เรียกว่า Queerbaiting
ที่มาของคำว่า “วาย”
รู้จักกับคำว่า “วาย” จากบทวิจัย “บันเทิงคดียาโออิไทย” โดย บุษบา ทองอุปการ ระบุว่า Y มาจากคำว่า ‘Yaoi’ หมายถึงเรื่องราวของชายรักชาย รวมถึงสามารถหมายถึง ‘Yuri’ ซึ่งเป็นของหญิงรักหญิง ถูกสร้างขึ้นจากวัฒนธรรมของกลุ่มชาวญี่ปุ่นผู้หญิงที่ชอบนำตัวละครจากสื่อมาสร้างเรื่องราวสมมติให้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน กลุ่มผู้หญิงที่ชื่นชอบ Y จึงถูกเรียกว่า “สาววาย”
สาววายกับกระแสวาย
ประชาชาติธุรกิจ ระบุว่า ตลาดวายมีมูลค่าต่อปีสูงถึง 2-3 พันล้านบาท ในปี 2567 จากการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ อีกทั้งยังช่วยเปิดกรอบความคิดเรื่อง LGBTQ+ ของผู้คนให้กว้างขึ้น สามารถเพิ่มอัตราการเข้าประเทศให้โตตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ความนิยมของวายทำให้บางองค์กรใช้เพื่อประโยชน์โดยขาดการสนับสนุนอย่างจริงใจ เช่น กรณีแอคเคาท์ X @bangkokpride_ ใช้ “คู่จิ้น” เพื่อเรียกกระแสในช่วงสมรสเท่าเทียมที่ผ่านมา จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าขาดความจริงใจต่อ LGBTQ+
หรือในปี 2565 สยามเซ็นเตอร์ จัดกิจกรรมร่วมกับ UNDP ตกแต่งธีมและอาหารที่มุ่งเน้นสีรุ้ง โดยไม่ได้มีการพูดถึงสิทธิความเท่าเทียมของ LGBTQ+ อย่างลึกซึ้งแต่อย่างใด อาจเรียกได้ว่าเป็นการ Rainbow Washing หรือ การใช้สีรุ้งที่เป็นสัญลักษณ์ของ Pride Month เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด
Queerbaiting vs Rainbow Washing การฉวยใช้เพื่อผลประโยชน์?
“Queerbaiting” คือกลยุทธ์ในสื่อบันเทิงที่สร้างนัยว่าตัวละครมีความสัมพันธ์หรืออัตลักษณ์แบบ LGBTQ+ แต่ไม่แสดงออกอย่างชัดเจน เพียงเพื่อดึงดูดผู้ชมทั้งกลุ่มที่สนับสนุนและไม่สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ
“Rainbow Washing” คือการใช้สัญลักษณ์ของชุมชน LGBTQ+ เช่น ธงสีรุ้ง เพื่อการตลาดโดยไม่ได้สนับสนุนชุมชนอย่างแท้จริง
ทั้งสองมีจุดร่วมกัน คือการฉวยใช้ประเด็นความหลากหลายทางเพศเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ โดยไม่ได้ผลักดันความเท่าเทียมอย่างจริงจัง ซึ่งในประเทศไทยพบเห็นได้ในอุตสาหกรรมบันเทิงที่ใช้ “คู่จิ้น” เพื่อดึงดูดสาววาย แต่ไม่ได้สนับสนุนประเด็นสิทธิ LGBTQ+ อย่างเป็นรูปธรรม
Queerbaiting ที่มีให้เห็นอยู่หลายกรณีในวงการบันเทิงไทย เช่น ซีรีส์ที่โปรโมทด้วยฉากสัมผัสร่างกาย หรือคำพูดกำกวมระหว่างตัวละคร แต่เนื้อเรื่องจริงกลับพบว่าความสัมพันธ์ที่เห็นนั้นเป็นเพียง “เพื่อนสนิท” ทั้งที่เมื่อมองความเป็นจริงแล้ว การกระทำเหล่านั้นเกินกว่าคำว่าเพื่อนสนิทไปมากอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงการจัดกิจกรรมแฟนมีต ที่จับคู่นักแสดงชายให้แสดงความสนิทสนม หยอกเล่นประหนึ่งคู่รักเกย์ คล้ายการ “สร้างโมเม้นต์” เพื่อเอาใจผู้ชมที่เป็นสาววายแต่ไม่ได้แสดงจุดยืนสนับสนุน LGBTQ+ แต่อย่างใด
ซีรีส์วายกับการสนับสนุนสิทธิ
เพราะมีการเกาะกระแสจากความโด่งดังโดยขาดความเข้าใจ จึงเกิดการตั้งคำถามว่าซีรีส์วายสนับสนุนสิทธิของกลุ่มเพศหลากหลายจริงหรือไม่ ?
ธีพิสิฐ มหานีรานนท์ นักเขียนอิสระและอดีตบรรณาธิการ BIOSCOPE เขียนบทความลงไทยรัฐ ชี้ให้เห็นว่า แม้สื่อวายไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นเครื่องมือเรียกร้องสิทธิ แต่มีซีรีส์ไทยบางเรื่องที่พูดถึงความเท่าเทียม เช่น “นิทานพันดาว” และ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” ในขณะที่บางเรื่องเน้นความบันเทิงมากกว่าประเด็นสิทธิ แม้จะนำเสนออย่างเป็นมิตรต่อสังคม
ผลกระทบต่อชุมชน LGBTQ+
ขณะที่สื่อวายและ “คู่จิ้น” ได้รับความนิยม ชาว LGBTQ+ บางส่วนรู้สึกว่าอัตลักษณ์ของพวกเขาถูกลดทอนเป็นเพียงเครื่องมือทำกำไรเท่านั้น
สื่อวายและคู่จิ้นได้รับแสง มีผู้คนสนใจ กลับกัน เหล่าผู้คนที่ถูกหยิบยืมอัตลักษณ์ไป ยังต้องเผชิญกับความอยุติธรรมจากสังคมเดียวกับที่ให้แสงสื่อวายและคู่จิ้นเหล่านั้น ยังคงถูกเลือกปฏิบัติ ถูกลบเลือนตัวตน ประเด็นเหล่านี้แสงส่องไม่ถึงเท่าครึ่งหนึ่งของการ “จิ้น” ในโลกบันเทิงจากสื่อเกาะกระแสวายและไม่ได้อยู่เคียงข้างชุมชน LGBTQ+ เสมือนกำลังซ้ำเติมการถูกเอาเปรียบของพวกเขา
บทบาทของสาววายในฐานะผู้บริโภคและมีความรับผิดชอบในการขับเคลื่อนสังคม
สาววาย เมื่อเลือกที่จะเสพสื่อวายอันอ้างอิงมาจากกลุ่มเพศหลากหลายในชีวิตจริงแล้ว สามารถมีบทบาทในฐานะผู้บริโภคที่มีความรับผิดชอบได้หลายรูปแบบ เช่น
- เลือกบริโภคสื่ออย่างมีสติ แยกแยะโลกสมมติกับความเป็นจริง
- เคารพความเป็นส่วนตัว และสนับสนุนสื่อที่มีคุณภาพ
- สร้างการยอมรับความหลากหลายทางเพศ ผ่านการสนับสนุนสื่อวายที่มีเนื้อหาสร้างสรรค์ แสดงจุดยืนสนับสนุน และเสพสื่อที่แสดงจุดยืนหรือไม่ต่อต้านเช่นกัน
- สนับสนุนศิลปินและผู้สร้างสรรค์ ผ่านการซื้อสินค้าและมีส่วนร่วมในอีเวนต์
แนวโน้มในอนาคตของวงการวาย
เมื่อผู้บริโภคตระหนักถึงปัญหาของ Queerbaiting มากขึ้น อุตสาหกรรมวายอาจต้องปรับตัวด้วยการ ‘เปิดใจ’ ‘ยอมรับ’ และ ‘เรียนรู้’ เพื่อสามารถมีคติที่ไม่เป็นพิษต่อชาวเพศหลากหลาย และสามารถสร้างสื่อวายที่ไม่เป็นการทำร้าย LGBTQ+ ในชีวิตจริงได้
และแนวโน้มที่น่าจับตาคือ การมีส่วนร่วมของชาว LGBTQ+ ในการผลิตสื่อ หากตัวละครเป็นเกย์ ก็ให้เกย์จริง ๆ มาแสดง เป็นการแสดงจุดยืนสนับสนุนที่ชัดเจน และขณะที่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับโลกที่เข้ามาลงทุนในไทยก็อาจจะมีการกำหนดมาตรฐานการนำเสนอเรื่องราวของชาวเพศหลากหลายให้มีมิติมากยิ่งขึ้น ในอนาคตอาจทำให้เส้นแบ่งระหว่าง “ซีรีส์วาย” กับ “ซีรีส์ LGBTQ+” เลือนรางไปเลยก็ได้
สุดท้ายแล้ว สาววายในฐานะผู้บริโภคที่มีความรับผิดชอบ ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการถูกมองในแง่ลบ แต่ยังช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนสังคมไปในทิศทางที่ดีขึ้น ร่วมกับการต่อต้านการ Queerbaiting ที่ฉกฉวยเพียงอย่างเดียวแต่ไม่ให้การสนับสนุนใด ๆ
แม้ในปัจจุบันสามารถเห็นได้ว่าสาววายนั้นมีทั้งกลุ่มที่ยังไม่ตระหนักและกลุ่มที่ตระหนัก ผ่านการถกเถียงในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ในอนาคต หากเสียงของชุมชนและผู้สนับสนุนยังดังต่อไป เชื่อว่าวงการสื่อบันเทิงและสังคมจะเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
ถึงจะต้องใช้เวลาก็ตาม
เรื่อง วชิราภรณ์ เย็นสินธุ์